เกณฑ์การรับสมัคร MU-TCAS 2569 รอบ 1/1 (Portfolio) คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล: คู่มือฉบับเข้าใจง่ายสำหรับ ม.6 ครู และผู้ปกครอง
ทำความเข้าใจภาพรวมให้ชัดก่อนเริ่ม
- รอบ/ระบบ: TCAS รอบที่ 1 Portfolio (รอบที่ 1/1) ปีการศึกษา 2569
- คณะ/หลักสูตร: คณะเภสัชศาสตร์ – หลักสูตรเภสัชศาสตรบัณฑิต (ภ.บ.)
- จำนวนรับ: 20 ที่นั่ง ในรอบ 1/1 (รอบ 1/2 ไม่เปิดรับ)
- ค่าเล่าเรียนตลอดหลักสูตร: 360,000 บาท (เฉลี่ย ภาคการศึกษาละ ~30,000 บาท)
- กลุ่มเป้าหมายผู้สมัคร: ม.6 / Grade 12 (ระบบอเมริกัน) / Year 13 (ระบบอังกฤษ – International High School)
คุณสมบัติพื้นฐานและเกณฑ์ที่ต้องมี
1) คุณสมบัติการศึกษา
- กำลังศึกษา ชั้น ม.6 หรือ Grade 12 (US) หรือ Year 13 (UK/International)
- รับทุกแผนการเรียน (วิทย์-คณิต, ศิลป์-คำนวณ, ฯลฯ) – ไม่กำหนดหน่วยกิตเฉพาะกลุ่มสาระ แต่ กำหนดเกรดขั้นต่ำ ดังนี้
2) เกณฑ์คะแนนสะสม (สำหรับผู้ที่ “กำลังศึกษา”)
- GPAX (เฉลี่ยสะสมทั้งหลักสูตร 4 ภาคเรียน): ≥ 3.50
- GPA รายกลุ่มสาระ (4 ภาคเรียน):
- วิทยาศาสตร์ – เคมี: ≥ 3.50
- วิทยาศาสตร์ – ชีววิทยา: ≥ 3.50
- วิทยาศาสตร์ – ฟิสิกส์: ≥ 3.50
- คณิตศาสตร์: ≥ 3.50
- ภาษาต่างประเทศ – อังกฤษ: ≥ 3.50
เคล็ดลับ: ถ้าเทอมใดเกรดตก กลับมาฟื้นเทอมถัดไป + เสริมคะแนนวิทย์-คณิต-อังกฤษให้ถึงเกณฑ์ทุกตัว เพราะ ทุกกลุ่มสาระต้องผ่านขั้นต่ำ
3) คุณสมบัติพิเศษ (ช่วย “บวกคะแนน”)
หากมีข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้ จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ
3.1 คะแนนภาษาอังกฤษมาตรฐาน (อายุผลสอบ ≤ 2 ปี)
- MU-ELT ≥ 84
- TOEIC ≥ 600
- TOEFL iBT ≥ 64
- IELTS ≥ 5.0
- TOEFL ITP (จัดสอบโดยมหิดล) ≥ 500
- Duolingo English Test ≥ 90
หมายเหตุสำคัญ: ไม่มีคะแนนอังกฤษก็สมัครได้ แต่ จะไม่ได้คะแนนส่วนที่ 4 (ภาษาอังกฤษ 5%) ในเกณฑ์คัดเลือก
3.2 เอกสาร/รางวัลช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
แบ่ง 3 หมวดใหญ่ ส่งเท่าที่มี (เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ)
- ทักษะทางวิชาการ
- ผ่านค่าย/รางวัล สอวน. (ค่าย 1 ขึ้นไป – เคมี ชีวะ ฟิสิกส์ คณิต คอม)
- รางวัล ระดับชาติ/นานาชาติ/ภูมิภาค ในสายวิทยาศาสตร์จากหน่วยงานที่เชื่อถือได้
- ความเป็นผู้นำ
- หนังสือรับรอง หัวหน้าโครงการ/หัวหน้าชมรม ด้านเภสัช/แพทย์/สาธารณสุข
- บทบาท ผู้จัด/ผู้แทนโรงเรียน ในกิจกรรมทางสุขภาพกับหน่วยงานที่ยอมรับ
- ทักษะการวิจัย
- รางวัลโครงงานวิจัย ระดับชาติ/นานาชาติ ที่เกี่ยวข้องกับเภสัช/แพทย์/สาธารณสุข/วิทยาศาสตร์ (แนบรายละเอียดองค์กรผู้ออกเกียรติบัตร ระดับของหน่วยงาน ประเภท “แข่งขัน” หรือ “เข้าร่วม” และบทบาทหน้าที่อย่างชัดเจน)
3.3 Statement of Purpose (SoP) เด่นชัด
เขียนเล่าสั้นกระชับแต่มีพลัง: แนะนำตัว-แรงบันดาลใจ-เหตุผลเลือกเภสัช ม.มหิดล-เป้าหมายหลังเรียนจบ-คุณสมบัติที่เหมาะกับคณะ พร้อมหลักฐานหนุน
คุณสมบัติเฉพาะเพิ่มเติม
- สัญชาติไทย
- ประวัติอาญา: ไม่เคยต้องโทษจำคุกถึงที่สุด/คำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายให้จำคุก
- แรงจูงใจ: มีความตั้งใจเรียนต่อหลักสูตรเภสัช ม.มหิดลอย่างจริงจัง
- สุขภาพ: แข็งแรง ปราศจากโรคหรือภาวะที่เป็นอุปสรรคต่อการเรียน/วิชาชีพ
- รวมถึง ตาบอดสี (ต้องตรวจ Ishihara Test และ Farnsworth D-15 hue Test โดยแพทย์และระบุว่า “ไม่มีผลต่อการเรียน”)
- ปัญหาการได้ยิน/การเห็น/โรคติดต่ออันตราย/โรคจิตเวช/ภาวะเสี่ยงอื่น ๆ ตามที่สภาเภสัชกรรมกำหนด
- ต้องมี ใบรับรองแพทย์ ตามแบบฟอร์มคณะ
เกณฑ์ “สัดส่วนคะแนนคัดเลือก” (เต็ม 100%)
รายการประเมิน | สัดส่วน |
---|---|
1) คุณสมบัติทักษะทางวิชาการ | 30% |
2) ความเป็นผู้นำ | 15% |
3) ทักษะการวิจัย | 20% |
4) คะแนนภาษาอังกฤษ* | 5% |
5) Statement of Purpose (SoP) | 10% |
6) สัมภาษณ์ | 20% |
7) ผลตรวจสุขภาพ | – |
รวม | 100% |
* ไม่มีคะแนนภาษาอังกฤษได้ แต่จะ เสียคะแนนส่วนนี้ไป 5%
ข้อควรรู้: ดุลยพินิจของคณะกรรมการถือเป็นที่สิ้นสุด ดังนั้นเอกสารต้องจริงครบและสื่อสาร “ตัวตน+ศักยภาพ” ให้ชัด
เอกสารที่ต้องอัปโหลดในระบบสมัคร (Checklist พร้อมสเปกไฟล์)
- รูปถ่ายดิจิทัล ขนาด 1.5×2 นิ้ว หน้าตรง เห็นหน้าชัด ~80% พื้นหลังขาว/ฟ้า/น้ำเงิน ชุดนักเรียน/สุภาพ ไม่สวมหมวก/แว่นตา
- ไฟล์ .jpg กว้าง 180–500 px สูง 200–600 px ขนาด ≤ 240 KB (ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน)
- บัตรประชาชน (ด้านหน้า) + รับรองสำเนาถูกต้อง (ลายเซ็นชื่อ-สกุล)
- ไฟล์ .pdf ≤ 2 MB
- ถ้าชื่อ-สกุลในบัตร ไม่ตรง ปพ.1 ให้แนบ หลักฐานเปลี่ยนชื่อ/สกุล รวมไว้ไฟล์เดียวกัน
- สำเนาทะเบียนบ้าน (หน้าแรก + หน้าที่มีชื่อผู้สมัคร) + รับรองสำเนาถูกต้อง
- ไฟล์ .pdf ≤ 2 MB (สแกนหน้าเดียวกัน)
- ระเบียนผลการเรียน ปพ.1 ม.4–ม.5 (4 ภาคเรียน) โรงเรียนออกให้ + ตราประทับ
- ถ้ามี 2 หน้า สแกนทั้งหน้า-หลัง รวมไฟล์เดียว + ลงนามรับรอง ทั้งสองหน้า
- ไฟล์ .pdf ≤ 2 MB
- ใบรับรองคะแนนส่วนกลาง (GPAX/GPA 4 ภาคเรียน) ตามแบบฟอร์มมหิดล
- ผลตรวจสุขภาพ ตามแบบฟอร์มคณะ (ออกโดย รพ.รัฐ/เอกชน)
- แนบผล ตา (Ishihara, Farnsworth D-15) และ เอกซเรย์ปอด (CXR รายงาน)
- อายุใบรับรอง ไม่เกิน 6 เดือน
- ผลสอบภาษาอังกฤษ (ถ้ามี, อายุผล ≤ 2 ปี)
- แฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) ไม่เกิน 10 หน้า (ไม่ต้องมีปก/คำนำ/สารบัญ/ตกแต่งเกินจำเป็น) – ภาษาไทยหรืออังกฤษ
- ส่วนที่ 1: Statement of Purpose (SoP)
- โครงเรื่อง: เหตุผลเรียนที่คณะเภสัช ม.มหิดล → เป้าหมายหลังจบ → ทำไมเรา “เหมาะ” กับคณะ + หลักฐานสนับสนุน
- รูปแบบ:
- ไทยใช้ TH Sarabun ขนาด 16 pt / อังกฤษใช้ Times New Roman ขนาด 11 pt
- ความยาว ไม่เกิน 2 หน้า A4 ระยะขอบ 1 นิ้วทุกด้าน
- ใช้ ภาษาเขียนถูกต้อง ชัดเจน อ่านง่าย
- ส่วนที่ 2: หลักฐาน/เกียรติบัตร 3 ปีล่าสุด
- วิชาการ / ภาวะผู้นำ / การวิจัย (เลือกส่งตามจริง พร้อมรายละเอียดหน่วยงาน ระดับรางวัล บทบาทหน้าที่ ลิงก์ประกาศ หากมี)
- ส่วนที่ 1: Statement of Purpose (SoP)
ข้อควรระวัง: เอกสาร/ข้อมูลเท็จ ปลอมแปลง หรือกรอกไม่ตรงระบบมหาวิทยาลัย/ระบบคณะ ถือเป็นโมฆะ และอาจถูกดำเนินการตามระเบียบ
ไทม์ไลน์สำคัญที่ “ห้ามพลาด”
- 1–16 ตุลาคม 2568 (ภายในเวลา 12.00 น.)
ผู้สมัครที่ทำรายการในระบบ MU TCAS แล้ว ต้อง อัปโหลดเอกสารและกรอกข้อมูลซ้ำ ในระบบ TCAS คณะเภสัชศาสตร์ ม.มหิดล (ข้อมูลต้องตรงกันเป๊ะ)ใครทำไม่ครบ/เกินเวลา = สละสิทธิ์อัตโนมัติ
- พฤหัสบดี 30 ตุลาคม 2568 – ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ (รายบุคคลในระบบมหาวิทยาลัย)
- อาทิตย์ 2 พฤศจิกายน 2568 – สอบสัมภาษณ์ + ชำระค่าธรรมเนียมสัมภาษณ์ 1,000 บาท
(สถานที่/รายละเอียด จะแจ้งภายหลัง)
ทริกจัดการเวลา: ตั้ง “3 เตือน” – ก่อนหมดเขต 7 วัน / 3 วัน / 24 ชม. และทำเช็กลิสต์เอกสารให้พร้อมก่อนวันจริงอย่างน้อย 3–5 วัน
ตัวอย่างการวางโครง Portfolio 10 หน้า (นำไปปรับใช้ได้ทันที)
หน้า 1–2: SoP (ไม่เกิน 2 หน้า)
- ย่อหน้า 1: จุดเริ่มต้นแรงบันดาลใจด้านเภสัช (ประสบการณ์จริง/กิจกรรมอาสา/อ่านงานวิจัยที่เปลี่ยนมุมมอง)
- ย่อหน้า 2: เหตุผลเลือก ม.มหิดล (จุดเด่นหลักสูตร/เส้นทางอาชีพ/ระบบสนับสนุนงานวิจัย/เครือข่ายโรงพยาบาล)
- ย่อหน้า 3: คุณสมบัติส่วนตัวเชื่อมกับ “คุณลักษณะเภสัชกร” (ความละเอียดรอบคอบ จริยธรรม การสื่อสารกับผู้ป่วย) พร้อมหลักฐานอ้างอิงใน Portfolio
- ย่อหน้า 4: เป้าหมาย 5–10 ปี (ใบประกอบวิชาชีพ → สายงานที่สนใจ เช่น เภสัชคลินิก/อุตสาหกรรม/วิจัยยา → แผนเรียนต่อเฉพาะทาง)
หน้า 3–4: ทักษะวิชาการ
- สรุปรางวัล/ค่ายที่เกี่ยวข้อง (สอวน., แข่งขันวิทย์, โครงงาน) เป็น “บัตรข้อมูล” สั้น ๆ: ชื่อผลงาน-บทบาท-ผลลัพธ์-วันที่-หน่วยงาน
หน้า 5–6: ภาวะผู้นำ
- หัวข้อโปรเจกต์/ชมรมที่คุม – เป้าหมายกิจกรรม – สิ่งที่ทำ – ผลกระทบ (เช่น ลดการใช้ยาปฏิชีวนะผิดวิธีในโรงเรียน)
หน้า 7–8: งานวิจัย/โครงงาน
- โครงร่างแบบ IMRAD ย่อ: ปัญหา-วิธี-ผล-ข้อสรุป + บทบาทของเรา + เครื่องมือ/ทักษะที่ใช้ (เช่น HPLC, สถิติพื้นฐาน)
หน้า 9: ภาษาอังกฤษ/ทักษะสื่อสาร
- คะแนนสอบ (ถ้ามี) + หลักฐานเวิร์กช็อปการสื่อสาร/พรีเซนต์ + ตัวอย่างสไลด์หรือ QR ไปยังวิดีโอพรีเซนต์ (ถ้าคณะอนุญาต)
หน้า 10: สรุปโปรไฟล์ + QR หลักฐานสำคัญ
- ตารางสรุป “เราเหมาะอย่างไร” ตรงกับเกณฑ์ 7 ข้อของคณะ + ช่องทางติดต่ออีเมล
เคล็ดลับรูปแบบ: ใช้กริด 2–3 คอลัมน์ ตัวอักษรอ่านง่าย มี White Space พอเหมาะ เน้นรูป-อินโฟกราฟิกมากกว่า “ตัวหนังสือล้วน”
อ่านเพิ่มเติม คลิก
เทคนิค “อัปคะแนน” ให้แตะ 100% แบบมีแผน
A) วิชาการ 30%: ทำอย่างไรให้คะแนนเต็ม?
- เน้นผลงาน ลึกและต่อเนื่อง มากกว่าจำนวนเยอะ ๆ
- ถ้าไม่มีรางวัลใหญ่ ใช้ “หลักฐานกระบวนการเรียนรู้” แทน เช่น รายงานทดลอง เคสศึกษาผู้ป่วยจำลอง โครงงานย่อยกับครูวิทย์
- อธิบาย “สิ่งที่ได้เรียนรู้” → “นำไปใช้อย่างไรในเภสัช” ให้ชัดในคำบรรยาย
B) ความเป็นผู้นำ 15%: วัดจาก “ผลลัพธ์”
- จาก “ตำแหน่ง” ไปสู่ “Impact”: ตัวเลขผู้เข้าร่วม กิจกรรมที่เกิดจริง เนื้อหาที่ผลิต (โปสเตอร์ความรู้ยา, แคมเปญเลิกใช้ยาสเตียรอยด์ผิดวิธี ฯลฯ)
C) การวิจัย 20%: โชว์ “วิธีคิดเชิงวิทยาศาสตร์”
- มี/ไม่มีรางวัลก็ส่งได้ ชู กรอบคิดวิจัย: ตั้งคำถาม → ออกแบบวิธี → เก็บข้อมูล → วิเคราะห์ → สรุป
- ระบุเครื่องมือ/ซอฟต์แวร์ที่ใช้ (Excel/สถิติพื้นฐาน/การอ่านวารสาร) เพื่อสะท้อนความพร้อมต่อการเรียนเชิงหลักฐาน (evidence-based)
D) อังกฤษ 5%: เก็บแต้มเร็ว
- ถ้ายังไม่มีผลสอบ เลือก Duolingo/TOEIC เป็น “บันไดแรก” เพื่อให้มีคะแนนส่วนนี้
- ฝึก พรีเซนต์ภาษาอังกฤษ 3–5 นาที เรื่องที่เกี่ยวกับยา/สุขภาพ → อัปคลิปส่วนตัว (ถ้าคณะอนุญาต) แล้วอ้างถึงใน Portfolio
E) SoP 10%: โดนใจโดยไม่เว่อร์
- ใช้โครง STAR (Situation-Task-Action-Result) เพื่อเล่าเคสประสบการณ์ที่ “วัดผลได้”
- หลีกเลี่ยงคำทั่วไป เช่น “อยากช่วยผู้ป่วย” ให้แปลงเป็น เรื่องจริงสั้น ๆ ที่เราเคยทำ
F) สัมภาษณ์ 20%: ซ้อมให้เหมือนจริง
- ทำ Question Bank ส่วนตัว เช่น
- “เภสัชกรในฝันของคุณทำงานวันหนึ่งทำอะไรบ้าง?”
- “ถ้าผู้ป่วยขอซื้อยาปฏิชีวนะโดยไม่มีใบสั่ง จะอธิบายอย่างไร?”
- “จุดอ่อนของคุณคืออะไร และจะจัดการอย่างไรในสภาพแวดล้อมที่ละเอียดอ่อนแบบงานเภสัช?”
- ฝึกตอบให้ กระชับ-เป็นระบบ-มีจริยธรรม และเชื่อมโยงกับหลักสูตร/อาชีพ
ตัวอย่าง SoP (Outline) สำหรับนำไปปรับใช้
ย่อหน้า 1 – จุดเริ่มต้น
ตอน ม.5 ฉันร่วมโครงการรณรงค์ “ใช้ยาอย่างสมเหตุผล” ที่โรงเรียน พบว่านักเรียนจำนวนมากใช้ยาสเตียรอยด์จากร้านสะดวกซื้อผิดวิธี ก่อให้เกิดผลข้างเคียง ฉันและทีมจึงจัดคลินิกความรู้ยาสั้น ๆ ให้คำแนะนำส่วนบุคคล นี่คือเหตุผลที่ฉันสนใจ “เภสัชกรรมคลินิก”
ย่อหน้า 2 – ทำไมต้องมหิดล
หลักสูตรเภสัช ม.มหิดลมีจุดแข็งด้านการฝึกปฏิบัติและเครือข่ายสถานพยาบาล การเรียนรู้แบบผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางตรงกับเป้าหมายฉันที่จะพัฒนาทักษะสื่อสารและการดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
ย่อหน้า 3 – ฉันเหมาะอย่างไร
ฉันทำหน้าที่หัวหน้าโครงการผลิตสื่ออินโฟกราฟิกยาแก้แพ้ แปลงข้อมูลวิชาการเป็นภาษาง่าย ๆ มีผู้เข้าถึงมากกว่า 1,500 คน สะท้อนความรอบคอบ รับผิดชอบ และจริยธรรมในการสื่อสารเรื่องยา
ย่อหน้า 4 – เป้าหมายระยะยาว
หลังจบ ฉันตั้งใจสอบใบประกอบวิชาชีพ ทำงานเป็นเภสัชกรโรงพยาบาลสายโรคระบบหายใจ และต่อยอดเรียนต่อเฉพาะทางเพื่อช่วยยกระดับคุณภาพการใช้ยาในชุมชน
นำ Outline นี้ไปเรียบเรียงเป็นภาษาของตนเอง อย่า “คัดลอก” และอย่าลืมเชื่อมกับหลักฐานใน Portfolio
แนวทางเตรียม “ผลตรวจสุขภาพ” แบบไม่พลาด
- นัดตรวจล่วงหน้า อย่างน้อย 2–3 สัปดาห์
- แจ้งโรงพยาบาลว่า ต้องการผล Ishihara + Farnsworth D-15 + CXR (พร้อมรายงาน)
- ตรวจสายตา/การได้ยินตามแบบฟอร์มให้ครบ
- ตรวจแล้ว สแกนรายงานแนบ พร้อมใบรับรองแพทย์ (อายุไม่เกิน 6 เดือน)
ตัวอย่างคำถามสัมภาษณ์ยอดฮิต (พร้อมไอเดียตอบ)
- “ทำไมถึงเลือกคณะเภสัช ไม่เลือกแพทย์/วิศวะ/วิทย์บริสุทธิ์?”
- โยง “ความถนัด+ประสบการณ์จริง” ที่เกี่ยวกับยา/ผู้ป่วย และ “บทบาทเฉพาะของเภสัชกร” ที่เราสนใจ
- “เคยตัดสินใจผิดพลาดไหม และเรียนรู้อะไร?”
- ใช้กรอบ STAR เล่ากระบวนการรับผิดชอบ-ปรับปรุง และบทเรียนเรื่องความละเอียดรอบคอบ
- “จริยธรรมการใช้ยาสำคัญกับคุณอย่างไร?”
- ยกตัวอย่างเคสการปฏิเสธการจ่ายยาที่เสี่ยง/ไม่มีใบสั่งยา พร้อมวิธีสื่อสารกับผู้ป่วยอย่างให้เกียรติ
อาชีพหลังสำเร็จการศึกษา (หลังสอบใบประกอบฯ ผ่าน)
- เภสัชกรโรงพยาบาล
- เภสัชกรชุมชน/ร้านยา
- เภสัชกรอุตสาหกรรมยา (ผลิต/ประกันคุณภาพ/วิจัยและพัฒนา)
- การตลาดยา/ข้อมูลยา (Medical/Pharma Marketing, MSL)
- ต่อยอด เป็น เภสัชกรประจำบ้าน สาขาเฉพาะ (หัวใจและหลอดเลือด, ระบบประสาท ฯลฯ)
- เรียนต่อ ปริญญาโท/เอก สาขา เภสัชเคมี, เภสัชกรรมคลินิก, เภสัชอุตสาหกรรม ฯลฯ
ทักษะที่ควรเริ่มสะสมตั้งแต่ม.ปลาย: การสื่อสารกับผู้ป่วยอย่างเห็นอกเห็นใจ (empathy), คิดเชิงวิพากษ์, วิเคราะห์หลักฐานทางวิทยาศาสตร์, จริยธรรมวิชาชีพ
สรุป “สมัครให้ผ่านในครั้งเดียว” (Key Takeaways)
- รู้เกณฑ์ชัด: GPAX/GPA ≥ 3.50 ทุกวิชาหลัก (วิทย์-คณิต-อังกฤษ)
- คะแนนอังกฤษมีแต้มเพิ่ม: ตั้งเป้า MU-ELT/TOEIC/IELTS/TOEFL/DET ภายใน 2–3 เดือน
- Portfolio ≤ 10 หน้า: SoP ไม่เกิน 2 หน้า เน้นคุณภาพ เรียบง่าย อ่านรู้เรื่อง
- เอกสารรูป-สแกนตามสเปกไฟล์: .jpg/.pdf ขนาดไฟล์ตามกำหนด
- ไทม์ไลน์ห้ามพลาด: 1–16 ต.ค. 2568 อัปโหลดระบบคณะให้ตรงกับ MU TCAS
- สัมภาษณ์ 20%: ฝึกตอบแบบเป็นระบบ มีจริยธรรม และเชื่อมกับงานเภสัชจริง
- สุขภาพต้องพร้อม: ผลตรวจสายตา-ตาบอดสี (Ishihara + D-15) + CXR พร้อมรายงาน
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: ไม่มีคะแนนภาษาอังกฤษ สมัครได้ไหม?
A: ได้ แต่ เสีย 5% ส่วนภาษาอังกฤษ ควรเร่งสอบเพื่อเก็บแต้ม
Q: ไม่เคยได้รางวัลวิทยาศาสตร์ใหญ่ ๆ จะเสียเปรียบไหม?
A: ไม่จำเป็นต้องมีรางวัลใหญ่ ถ้ามี หลักฐานการเรียนรู้ลึก-ต่อเนื่อง และสะท้อน วิธีคิดเชิงวิทยาศาสตร์ ก็ทำให้ Portfolio แข็งแรงได้
Q: Portfolio ต้องตกแต่งสวยมากไหม?
A: ไม่จำเป็น เน้น เรียบ-อ่านง่าย-สื่อสารชัด ใช้รูปแบบสม่ำเสมอ มีระยะขอบและตัวอักษรตามกำหนด
Q: ถ้าชื่อในบัตรประชาชนไม่ตรง ปพ.1 ทำอย่างไร?
A: แนบ หลักฐานเปลี่ยนชื่อ/สกุล รวมไฟล์เดียวกับบัตรประชาชน (ตามสเปกที่กำหนด)
เช็กลิสต์ก่อนกด “ส่งใบสมัคร”
- GPAX/GPA ตรวจครบตามเกณฑ์ทุกวิชา
- ผลสอบอังกฤษ (ถ้ามี) อัปโหลด ถูกต้องและ อายุ ≤ 2 ปี
- ปพ.1 ม.4–ม.5 (4 เทอม) ประทับตราโรงเรียน ครบหน้า-หลัง ลงนามรับรองถูกต้อง
- รูปถ่ายตามสเปก .jpg ขนาดและพื้นหลังถูกต้อง
- บัตรประชาชน/ทะเบียนบ้าน .pdf รวมไฟล์ครบ พร้อม “รับรองสำเนาถูกต้อง”
- ผลตรวจสุขภาพ + รายงาน Ishihara, Farnsworth D-15, CXR
- Portfolio ≤ 10 หน้า + SoP ≤ 2 หน้า ตามฟอนต์/ขนาดที่กำหนด
- อัปโหลดระบบ MU TCAS → ระบบคณะ (ข้อมูล ต้องตรงกัน) ภายใน 1–16 ต.ค. 2568 ก่อน 12.00 น.
- เตรียมตัวสอบสัมภาษณ์ (จำลองคำถาม + ฝึกเล่าเคสจริง)
ปิดท้าย: ทำให้ “เรา” เป็นผู้สมัครที่คณะจำได้
คณะเภสัชศาสตร์มองหา คนที่เรียนรู้เร็ว รอบคอบ มีจริยธรรม และสื่อสารกับผู้ป่วยได้ดี แสดงสิ่งเหล่านี้ผ่าน ผลงานจริง และ เรื่องราวจริง ของคุณใน SoP/Portfolio แล้วเสริมด้วยคะแนนอังกฤษ-สุขภาพพร้อม-สัมภาษณ์มั่นใจ เท่านี้ก็เข้าใกล้เป้าหมาย MU-TCAS 2569 รอบ 1/1 คณะเภสัชศาสตร์ ม.มหิดล ไปอีกก้าวใหญ่แล้ว
ขอให้โชคดีกับการสมัคร!