MU-TCAS 2569 รอบ 1/1 คณะเภสัชศาสตร์ ม.มหิดล: คุณสมบัติ เกณฑ์คัดเลือก เอกสาร Portfolio

mu-tcas-2569-portfolio-pharmacy-mahidol

เกณฑ์การรับสมัคร MU-TCAS 2569 รอบ 1/1 (Portfolio) คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล: คู่มือฉบับเข้าใจง่ายสำหรับ ม.6 ครู และผู้ปกครอง

ทำความเข้าใจภาพรวมให้ชัดก่อนเริ่ม

  • รอบ/ระบบ: TCAS รอบที่ 1 Portfolio (รอบที่ 1/1) ปีการศึกษา 2569
  • คณะ/หลักสูตร: คณะเภสัชศาสตร์ – หลักสูตรเภสัชศาสตรบัณฑิต (ภ.บ.)
  • จำนวนรับ: 20 ที่นั่ง ในรอบ 1/1 (รอบ 1/2 ไม่เปิดรับ)
  • ค่าเล่าเรียนตลอดหลักสูตร: 360,000 บาท (เฉลี่ย ภาคการศึกษาละ ~30,000 บาท)
  • กลุ่มเป้าหมายผู้สมัคร: ม.6 / Grade 12 (ระบบอเมริกัน) / Year 13 (ระบบอังกฤษ – International High School)

คุณสมบัติพื้นฐานและเกณฑ์ที่ต้องมี

1) คุณสมบัติการศึกษา

  • กำลังศึกษา ชั้น ม.6 หรือ Grade 12 (US) หรือ Year 13 (UK/International)
  • รับทุกแผนการเรียน (วิทย์-คณิต, ศิลป์-คำนวณ, ฯลฯ) – ไม่กำหนดหน่วยกิตเฉพาะกลุ่มสาระ แต่ กำหนดเกรดขั้นต่ำ ดังนี้

2) เกณฑ์คะแนนสะสม (สำหรับผู้ที่ “กำลังศึกษา”)

  • GPAX (เฉลี่ยสะสมทั้งหลักสูตร 4 ภาคเรียน): ≥ 3.50
  • GPA รายกลุ่มสาระ (4 ภาคเรียน):
    • วิทยาศาสตร์ – เคมี: ≥ 3.50
    • วิทยาศาสตร์ – ชีววิทยา: ≥ 3.50
    • วิทยาศาสตร์ – ฟิสิกส์: ≥ 3.50
    • คณิตศาสตร์: ≥ 3.50
    • ภาษาต่างประเทศ – อังกฤษ: ≥ 3.50

เคล็ดลับ: ถ้าเทอมใดเกรดตก กลับมาฟื้นเทอมถัดไป + เสริมคะแนนวิทย์-คณิต-อังกฤษให้ถึงเกณฑ์ทุกตัว เพราะ ทุกกลุ่มสาระต้องผ่านขั้นต่ำ

3) คุณสมบัติพิเศษ (ช่วย “บวกคะแนน”)

หากมีข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้ จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ

3.1 คะแนนภาษาอังกฤษมาตรฐาน (อายุผลสอบ ≤ 2 ปี)

  • MU-ELT ≥ 84
  • TOEIC ≥ 600
  • TOEFL iBT ≥ 64
  • IELTS ≥ 5.0
  • TOEFL ITP (จัดสอบโดยมหิดล) ≥ 500
  • Duolingo English Test ≥ 90

หมายเหตุสำคัญ: ไม่มีคะแนนอังกฤษก็สมัครได้ แต่ จะไม่ได้คะแนนส่วนที่ 4 (ภาษาอังกฤษ 5%) ในเกณฑ์คัดเลือก

3.2 เอกสาร/รางวัลช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
แบ่ง 3 หมวดใหญ่ ส่งเท่าที่มี (เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ)

  • ทักษะทางวิชาการ
    • ผ่านค่าย/รางวัล สอวน. (ค่าย 1 ขึ้นไป – เคมี ชีวะ ฟิสิกส์ คณิต คอม)
    • รางวัล ระดับชาติ/นานาชาติ/ภูมิภาค ในสายวิทยาศาสตร์จากหน่วยงานที่เชื่อถือได้
  • ความเป็นผู้นำ
    • หนังสือรับรอง หัวหน้าโครงการ/หัวหน้าชมรม ด้านเภสัช/แพทย์/สาธารณสุข
    • บทบาท ผู้จัด/ผู้แทนโรงเรียน ในกิจกรรมทางสุขภาพกับหน่วยงานที่ยอมรับ
  • ทักษะการวิจัย
    • รางวัลโครงงานวิจัย ระดับชาติ/นานาชาติ ที่เกี่ยวข้องกับเภสัช/แพทย์/สาธารณสุข/วิทยาศาสตร์ (แนบรายละเอียดองค์กรผู้ออกเกียรติบัตร ระดับของหน่วยงาน ประเภท “แข่งขัน” หรือ “เข้าร่วม” และบทบาทหน้าที่อย่างชัดเจน)

3.3 Statement of Purpose (SoP) เด่นชัด
เขียนเล่าสั้นกระชับแต่มีพลัง: แนะนำตัว-แรงบันดาลใจ-เหตุผลเลือกเภสัช ม.มหิดล-เป้าหมายหลังเรียนจบ-คุณสมบัติที่เหมาะกับคณะ พร้อมหลักฐานหนุน


คุณสมบัติเฉพาะเพิ่มเติม

  • สัญชาติไทย
  • ประวัติอาญา: ไม่เคยต้องโทษจำคุกถึงที่สุด/คำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายให้จำคุก
  • แรงจูงใจ: มีความตั้งใจเรียนต่อหลักสูตรเภสัช ม.มหิดลอย่างจริงจัง
  • สุขภาพ: แข็งแรง ปราศจากโรคหรือภาวะที่เป็นอุปสรรคต่อการเรียน/วิชาชีพ
    • รวมถึง ตาบอดสี (ต้องตรวจ Ishihara Test และ Farnsworth D-15 hue Test โดยแพทย์และระบุว่า “ไม่มีผลต่อการเรียน”)
    • ปัญหาการได้ยิน/การเห็น/โรคติดต่ออันตราย/โรคจิตเวช/ภาวะเสี่ยงอื่น ๆ ตามที่สภาเภสัชกรรมกำหนด
    • ต้องมี ใบรับรองแพทย์ ตามแบบฟอร์มคณะ

เกณฑ์ “สัดส่วนคะแนนคัดเลือก” (เต็ม 100%)

รายการประเมิน สัดส่วน
1) คุณสมบัติทักษะทางวิชาการ 30%
2) ความเป็นผู้นำ 15%
3) ทักษะการวิจัย 20%
4) คะแนนภาษาอังกฤษ* 5%
5) Statement of Purpose (SoP) 10%
6) สัมภาษณ์ 20%
7) ผลตรวจสุขภาพ
รวม 100%

* ไม่มีคะแนนภาษาอังกฤษได้ แต่จะ เสียคะแนนส่วนนี้ไป 5%

ข้อควรรู้: ดุลยพินิจของคณะกรรมการถือเป็นที่สิ้นสุด ดังนั้นเอกสารต้องจริงครบและสื่อสาร “ตัวตน+ศักยภาพ” ให้ชัด


เอกสารที่ต้องอัปโหลดในระบบสมัคร (Checklist พร้อมสเปกไฟล์)

  1. รูปถ่ายดิจิทัล ขนาด 1.5×2 นิ้ว หน้าตรง เห็นหน้าชัด ~80% พื้นหลังขาว/ฟ้า/น้ำเงิน ชุดนักเรียน/สุภาพ ไม่สวมหมวก/แว่นตา
    • ไฟล์ .jpg กว้าง 180–500 px สูง 200–600 px ขนาด ≤ 240 KB (ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน)
  2. บัตรประชาชน (ด้านหน้า) + รับรองสำเนาถูกต้อง (ลายเซ็นชื่อ-สกุล)
    • ไฟล์ .pdf ≤ 2 MB
    • ถ้าชื่อ-สกุลในบัตร ไม่ตรง ปพ.1 ให้แนบ หลักฐานเปลี่ยนชื่อ/สกุล รวมไว้ไฟล์เดียวกัน
  3. สำเนาทะเบียนบ้าน (หน้าแรก + หน้าที่มีชื่อผู้สมัคร) + รับรองสำเนาถูกต้อง
    • ไฟล์ .pdf ≤ 2 MB (สแกนหน้าเดียวกัน)
  4. ระเบียนผลการเรียน ปพ.1 ม.4–ม.5 (4 ภาคเรียน) โรงเรียนออกให้ + ตราประทับ
    • ถ้ามี 2 หน้า สแกนทั้งหน้า-หลัง รวมไฟล์เดียว + ลงนามรับรอง ทั้งสองหน้า
    • ไฟล์ .pdf ≤ 2 MB
  5. ใบรับรองคะแนนส่วนกลาง (GPAX/GPA 4 ภาคเรียน) ตามแบบฟอร์มมหิดล
  6. ผลตรวจสุขภาพ ตามแบบฟอร์มคณะ (ออกโดย รพ.รัฐ/เอกชน)
    • แนบผล ตา (Ishihara, Farnsworth D-15) และ เอกซเรย์ปอด (CXR รายงาน)
    • อายุใบรับรอง ไม่เกิน 6 เดือน
  7. ผลสอบภาษาอังกฤษ (ถ้ามี, อายุผล ≤ 2 ปี)
  8. แฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) ไม่เกิน 10 หน้า (ไม่ต้องมีปก/คำนำ/สารบัญ/ตกแต่งเกินจำเป็น) – ภาษาไทยหรืออังกฤษ
    • ส่วนที่ 1: Statement of Purpose (SoP)
      • โครงเรื่อง: เหตุผลเรียนที่คณะเภสัช ม.มหิดล → เป้าหมายหลังจบ → ทำไมเรา “เหมาะ” กับคณะ + หลักฐานสนับสนุน
      • รูปแบบ:
        • ไทยใช้ TH Sarabun ขนาด 16 pt / อังกฤษใช้ Times New Roman ขนาด 11 pt
        • ความยาว ไม่เกิน 2 หน้า A4 ระยะขอบ 1 นิ้วทุกด้าน
        • ใช้ ภาษาเขียนถูกต้อง ชัดเจน อ่านง่าย
    • ส่วนที่ 2: หลักฐาน/เกียรติบัตร 3 ปีล่าสุด
      • วิชาการ / ภาวะผู้นำ / การวิจัย (เลือกส่งตามจริง พร้อมรายละเอียดหน่วยงาน ระดับรางวัล บทบาทหน้าที่ ลิงก์ประกาศ หากมี)

ข้อควรระวัง: เอกสาร/ข้อมูลเท็จ ปลอมแปลง หรือกรอกไม่ตรงระบบมหาวิทยาลัย/ระบบคณะ ถือเป็นโมฆะ และอาจถูกดำเนินการตามระเบียบ


ไทม์ไลน์สำคัญที่ “ห้ามพลาด”

  • 1–16 ตุลาคม 2568 (ภายในเวลา 12.00 น.)
    ผู้สมัครที่ทำรายการในระบบ MU TCAS แล้ว ต้อง อัปโหลดเอกสารและกรอกข้อมูลซ้ำ ในระบบ TCAS คณะเภสัชศาสตร์ ม.มหิดล (ข้อมูลต้องตรงกันเป๊ะ)

    ใครทำไม่ครบ/เกินเวลา = สละสิทธิ์อัตโนมัติ

  • พฤหัสบดี 30 ตุลาคม 2568ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ (รายบุคคลในระบบมหาวิทยาลัย)
  • อาทิตย์ 2 พฤศจิกายน 2568สอบสัมภาษณ์ + ชำระค่าธรรมเนียมสัมภาษณ์ 1,000 บาท
    (สถานที่/รายละเอียด จะแจ้งภายหลัง)

ทริกจัดการเวลา: ตั้ง “3 เตือน” – ก่อนหมดเขต 7 วัน / 3 วัน / 24 ชม. และทำเช็กลิสต์เอกสารให้พร้อมก่อนวันจริงอย่างน้อย 3–5 วัน


ตัวอย่างการวางโครง Portfolio 10 หน้า (นำไปปรับใช้ได้ทันที)

หน้า 1–2: SoP (ไม่เกิน 2 หน้า)

  • ย่อหน้า 1: จุดเริ่มต้นแรงบันดาลใจด้านเภสัช (ประสบการณ์จริง/กิจกรรมอาสา/อ่านงานวิจัยที่เปลี่ยนมุมมอง)
  • ย่อหน้า 2: เหตุผลเลือก ม.มหิดล (จุดเด่นหลักสูตร/เส้นทางอาชีพ/ระบบสนับสนุนงานวิจัย/เครือข่ายโรงพยาบาล)
  • ย่อหน้า 3: คุณสมบัติส่วนตัวเชื่อมกับ “คุณลักษณะเภสัชกร” (ความละเอียดรอบคอบ จริยธรรม การสื่อสารกับผู้ป่วย) พร้อมหลักฐานอ้างอิงใน Portfolio
  • ย่อหน้า 4: เป้าหมาย 5–10 ปี (ใบประกอบวิชาชีพ → สายงานที่สนใจ เช่น เภสัชคลินิก/อุตสาหกรรม/วิจัยยา → แผนเรียนต่อเฉพาะทาง)

หน้า 3–4: ทักษะวิชาการ

  • สรุปรางวัล/ค่ายที่เกี่ยวข้อง (สอวน., แข่งขันวิทย์, โครงงาน) เป็น “บัตรข้อมูล” สั้น ๆ: ชื่อผลงาน-บทบาท-ผลลัพธ์-วันที่-หน่วยงาน

หน้า 5–6: ภาวะผู้นำ

  • หัวข้อโปรเจกต์/ชมรมที่คุม – เป้าหมายกิจกรรม – สิ่งที่ทำ – ผลกระทบ (เช่น ลดการใช้ยาปฏิชีวนะผิดวิธีในโรงเรียน)

หน้า 7–8: งานวิจัย/โครงงาน

  • โครงร่างแบบ IMRAD ย่อ: ปัญหา-วิธี-ผล-ข้อสรุป + บทบาทของเรา + เครื่องมือ/ทักษะที่ใช้ (เช่น HPLC, สถิติพื้นฐาน)

หน้า 9: ภาษาอังกฤษ/ทักษะสื่อสาร

  • คะแนนสอบ (ถ้ามี) + หลักฐานเวิร์กช็อปการสื่อสาร/พรีเซนต์ + ตัวอย่างสไลด์หรือ QR ไปยังวิดีโอพรีเซนต์ (ถ้าคณะอนุญาต)

หน้า 10: สรุปโปรไฟล์ + QR หลักฐานสำคัญ

  • ตารางสรุป “เราเหมาะอย่างไร” ตรงกับเกณฑ์ 7 ข้อของคณะ + ช่องทางติดต่ออีเมล

เคล็ดลับรูปแบบ: ใช้กริด 2–3 คอลัมน์ ตัวอักษรอ่านง่าย มี White Space พอเหมาะ เน้นรูป-อินโฟกราฟิกมากกว่า “ตัวหนังสือล้วน”


อ่านเพิ่มเติม คลิก

เทคนิค “อัปคะแนน” ให้แตะ 100% แบบมีแผน

A) วิชาการ 30%: ทำอย่างไรให้คะแนนเต็ม?

  • เน้นผลงาน ลึกและต่อเนื่อง มากกว่าจำนวนเยอะ ๆ
  • ถ้าไม่มีรางวัลใหญ่ ใช้ “หลักฐานกระบวนการเรียนรู้” แทน เช่น รายงานทดลอง เคสศึกษาผู้ป่วยจำลอง โครงงานย่อยกับครูวิทย์
  • อธิบาย “สิ่งที่ได้เรียนรู้” → “นำไปใช้อย่างไรในเภสัช” ให้ชัดในคำบรรยาย

B) ความเป็นผู้นำ 15%: วัดจาก “ผลลัพธ์”

  • จาก “ตำแหน่ง” ไปสู่ “Impact”: ตัวเลขผู้เข้าร่วม กิจกรรมที่เกิดจริง เนื้อหาที่ผลิต (โปสเตอร์ความรู้ยา, แคมเปญเลิกใช้ยาสเตียรอยด์ผิดวิธี ฯลฯ)

C) การวิจัย 20%: โชว์ “วิธีคิดเชิงวิทยาศาสตร์”

  • มี/ไม่มีรางวัลก็ส่งได้ ชู กรอบคิดวิจัย: ตั้งคำถาม → ออกแบบวิธี → เก็บข้อมูล → วิเคราะห์ → สรุป
  • ระบุเครื่องมือ/ซอฟต์แวร์ที่ใช้ (Excel/สถิติพื้นฐาน/การอ่านวารสาร) เพื่อสะท้อนความพร้อมต่อการเรียนเชิงหลักฐาน (evidence-based)

D) อังกฤษ 5%: เก็บแต้มเร็ว

  • ถ้ายังไม่มีผลสอบ เลือก Duolingo/TOEIC เป็น “บันไดแรก” เพื่อให้มีคะแนนส่วนนี้
  • ฝึก พรีเซนต์ภาษาอังกฤษ 3–5 นาที เรื่องที่เกี่ยวกับยา/สุขภาพ → อัปคลิปส่วนตัว (ถ้าคณะอนุญาต) แล้วอ้างถึงใน Portfolio

E) SoP 10%: โดนใจโดยไม่เว่อร์

  • ใช้โครง STAR (Situation-Task-Action-Result) เพื่อเล่าเคสประสบการณ์ที่ “วัดผลได้”
  • หลีกเลี่ยงคำทั่วไป เช่น “อยากช่วยผู้ป่วย” ให้แปลงเป็น เรื่องจริงสั้น ๆ ที่เราเคยทำ

F) สัมภาษณ์ 20%: ซ้อมให้เหมือนจริง

  • ทำ Question Bank ส่วนตัว เช่น
    • “เภสัชกรในฝันของคุณทำงานวันหนึ่งทำอะไรบ้าง?”
    • “ถ้าผู้ป่วยขอซื้อยาปฏิชีวนะโดยไม่มีใบสั่ง จะอธิบายอย่างไร?”
    • “จุดอ่อนของคุณคืออะไร และจะจัดการอย่างไรในสภาพแวดล้อมที่ละเอียดอ่อนแบบงานเภสัช?”
  • ฝึกตอบให้ กระชับ-เป็นระบบ-มีจริยธรรม และเชื่อมโยงกับหลักสูตร/อาชีพ

ตัวอย่าง SoP (Outline) สำหรับนำไปปรับใช้

ย่อหน้า 1 – จุดเริ่มต้น
ตอน ม.5 ฉันร่วมโครงการรณรงค์ “ใช้ยาอย่างสมเหตุผล” ที่โรงเรียน พบว่านักเรียนจำนวนมากใช้ยาสเตียรอยด์จากร้านสะดวกซื้อผิดวิธี ก่อให้เกิดผลข้างเคียง ฉันและทีมจึงจัดคลินิกความรู้ยาสั้น ๆ ให้คำแนะนำส่วนบุคคล นี่คือเหตุผลที่ฉันสนใจ “เภสัชกรรมคลินิก”

ย่อหน้า 2 – ทำไมต้องมหิดล
หลักสูตรเภสัช ม.มหิดลมีจุดแข็งด้านการฝึกปฏิบัติและเครือข่ายสถานพยาบาล การเรียนรู้แบบผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางตรงกับเป้าหมายฉันที่จะพัฒนาทักษะสื่อสารและการดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรัง

ย่อหน้า 3 – ฉันเหมาะอย่างไร
ฉันทำหน้าที่หัวหน้าโครงการผลิตสื่ออินโฟกราฟิกยาแก้แพ้ แปลงข้อมูลวิชาการเป็นภาษาง่าย ๆ มีผู้เข้าถึงมากกว่า 1,500 คน สะท้อนความรอบคอบ รับผิดชอบ และจริยธรรมในการสื่อสารเรื่องยา

ย่อหน้า 4 – เป้าหมายระยะยาว
หลังจบ ฉันตั้งใจสอบใบประกอบวิชาชีพ ทำงานเป็นเภสัชกรโรงพยาบาลสายโรคระบบหายใจ และต่อยอดเรียนต่อเฉพาะทางเพื่อช่วยยกระดับคุณภาพการใช้ยาในชุมชน

นำ Outline นี้ไปเรียบเรียงเป็นภาษาของตนเอง อย่า “คัดลอก” และอย่าลืมเชื่อมกับหลักฐานใน Portfolio


แนวทางเตรียม “ผลตรวจสุขภาพ” แบบไม่พลาด

  • นัดตรวจล่วงหน้า อย่างน้อย 2–3 สัปดาห์
  • แจ้งโรงพยาบาลว่า ต้องการผล Ishihara + Farnsworth D-15 + CXR (พร้อมรายงาน)
  • ตรวจสายตา/การได้ยินตามแบบฟอร์มให้ครบ
  • ตรวจแล้ว สแกนรายงานแนบ พร้อมใบรับรองแพทย์ (อายุไม่เกิน 6 เดือน)

ตัวอย่างคำถามสัมภาษณ์ยอดฮิต (พร้อมไอเดียตอบ)

  1. “ทำไมถึงเลือกคณะเภสัช ไม่เลือกแพทย์/วิศวะ/วิทย์บริสุทธิ์?”
    • โยง “ความถนัด+ประสบการณ์จริง” ที่เกี่ยวกับยา/ผู้ป่วย และ “บทบาทเฉพาะของเภสัชกร” ที่เราสนใจ
  2. “เคยตัดสินใจผิดพลาดไหม และเรียนรู้อะไร?”
    • ใช้กรอบ STAR เล่ากระบวนการรับผิดชอบ-ปรับปรุง และบทเรียนเรื่องความละเอียดรอบคอบ
  3. “จริยธรรมการใช้ยาสำคัญกับคุณอย่างไร?”
    • ยกตัวอย่างเคสการปฏิเสธการจ่ายยาที่เสี่ยง/ไม่มีใบสั่งยา พร้อมวิธีสื่อสารกับผู้ป่วยอย่างให้เกียรติ

อาชีพหลังสำเร็จการศึกษา (หลังสอบใบประกอบฯ ผ่าน)

  • เภสัชกรโรงพยาบาล
  • เภสัชกรชุมชน/ร้านยา
  • เภสัชกรอุตสาหกรรมยา (ผลิต/ประกันคุณภาพ/วิจัยและพัฒนา)
  • การตลาดยา/ข้อมูลยา (Medical/Pharma Marketing, MSL)
  • ต่อยอด เป็น เภสัชกรประจำบ้าน สาขาเฉพาะ (หัวใจและหลอดเลือด, ระบบประสาท ฯลฯ)
  • เรียนต่อ ปริญญาโท/เอก สาขา เภสัชเคมี, เภสัชกรรมคลินิก, เภสัชอุตสาหกรรม ฯลฯ

ทักษะที่ควรเริ่มสะสมตั้งแต่ม.ปลาย: การสื่อสารกับผู้ป่วยอย่างเห็นอกเห็นใจ (empathy), คิดเชิงวิพากษ์, วิเคราะห์หลักฐานทางวิทยาศาสตร์, จริยธรรมวิชาชีพ


สรุป “สมัครให้ผ่านในครั้งเดียว” (Key Takeaways)

  • รู้เกณฑ์ชัด: GPAX/GPA ≥ 3.50 ทุกวิชาหลัก (วิทย์-คณิต-อังกฤษ)
  • คะแนนอังกฤษมีแต้มเพิ่ม: ตั้งเป้า MU-ELT/TOEIC/IELTS/TOEFL/DET ภายใน 2–3 เดือน
  • Portfolio ≤ 10 หน้า: SoP ไม่เกิน 2 หน้า เน้นคุณภาพ เรียบง่าย อ่านรู้เรื่อง
  • เอกสารรูป-สแกนตามสเปกไฟล์: .jpg/.pdf ขนาดไฟล์ตามกำหนด
  • ไทม์ไลน์ห้ามพลาด: 1–16 ต.ค. 2568 อัปโหลดระบบคณะให้ตรงกับ MU TCAS
  • สัมภาษณ์ 20%: ฝึกตอบแบบเป็นระบบ มีจริยธรรม และเชื่อมกับงานเภสัชจริง
  • สุขภาพต้องพร้อม: ผลตรวจสายตา-ตาบอดสี (Ishihara + D-15) + CXR พร้อมรายงาน

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

Q: ไม่มีคะแนนภาษาอังกฤษ สมัครได้ไหม?
A: ได้ แต่ เสีย 5% ส่วนภาษาอังกฤษ ควรเร่งสอบเพื่อเก็บแต้ม

Q: ไม่เคยได้รางวัลวิทยาศาสตร์ใหญ่ ๆ จะเสียเปรียบไหม?
A: ไม่จำเป็นต้องมีรางวัลใหญ่ ถ้ามี หลักฐานการเรียนรู้ลึก-ต่อเนื่อง และสะท้อน วิธีคิดเชิงวิทยาศาสตร์ ก็ทำให้ Portfolio แข็งแรงได้

Q: Portfolio ต้องตกแต่งสวยมากไหม?
A: ไม่จำเป็น เน้น เรียบ-อ่านง่าย-สื่อสารชัด ใช้รูปแบบสม่ำเสมอ มีระยะขอบและตัวอักษรตามกำหนด

Q: ถ้าชื่อในบัตรประชาชนไม่ตรง ปพ.1 ทำอย่างไร?
A: แนบ หลักฐานเปลี่ยนชื่อ/สกุล รวมไฟล์เดียวกับบัตรประชาชน (ตามสเปกที่กำหนด)


เช็กลิสต์ก่อนกด “ส่งใบสมัคร”

  • GPAX/GPA ตรวจครบตามเกณฑ์ทุกวิชา
  • ผลสอบอังกฤษ (ถ้ามี) อัปโหลด ถูกต้องและ อายุ ≤ 2 ปี
  • ปพ.1 ม.4–ม.5 (4 เทอม) ประทับตราโรงเรียน ครบหน้า-หลัง ลงนามรับรองถูกต้อง
  • รูปถ่ายตามสเปก .jpg ขนาดและพื้นหลังถูกต้อง
  • บัตรประชาชน/ทะเบียนบ้าน .pdf รวมไฟล์ครบ พร้อม “รับรองสำเนาถูกต้อง”
  • ผลตรวจสุขภาพ + รายงาน Ishihara, Farnsworth D-15, CXR
  • Portfolio ≤ 10 หน้า + SoP ≤ 2 หน้า ตามฟอนต์/ขนาดที่กำหนด
  • อัปโหลดระบบ MU TCAS → ระบบคณะ (ข้อมูล ต้องตรงกัน) ภายใน 1–16 ต.ค. 2568 ก่อน 12.00 น.
  • เตรียมตัวสอบสัมภาษณ์ (จำลองคำถาม + ฝึกเล่าเคสจริง)

ปิดท้าย: ทำให้ “เรา” เป็นผู้สมัครที่คณะจำได้

คณะเภสัชศาสตร์มองหา คนที่เรียนรู้เร็ว รอบคอบ มีจริยธรรม และสื่อสารกับผู้ป่วยได้ดี แสดงสิ่งเหล่านี้ผ่าน ผลงานจริง และ เรื่องราวจริง ของคุณใน SoP/Portfolio แล้วเสริมด้วยคะแนนอังกฤษ-สุขภาพพร้อม-สัมภาษณ์มั่นใจ เท่านี้ก็เข้าใกล้เป้าหมาย MU-TCAS 2569 รอบ 1/1 คณะเภสัชศาสตร์ ม.มหิดล ไปอีกก้าวใหญ่แล้ว

ขอให้โชคดีกับการสมัคร!

Previous Article

เกณฑ์รับสมัคร TCAS 69 คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล รอบ 1 Portfolio

Next Article

MU-TCAS 2569 เกณฑ์การรับสมัครรอบ 2 Quota คณะเภสัชศาสตร์ มหิดล

Write a Comment

Leave a Comment