หลายคนที่ชื่นชอบการวิเคราะห์ตัวเลข ชอบติดตามข่าวสารด้านการเงินการลงทุน และอยากทำงานในสายการเงิน มักจะตั้งเป้าหมายว่าอยากเป็นนักวิเคราะห์การเงิน แต่ก็มักจะสงสัยว่าควรเลือกเรียนคณะอะไร มหาวิทยาลัยไหน และต้องมีทักษะอะไรบ้าง วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยทั้งหมดเกี่ยวกับเส้นทางการเป็นนักวิเคราะห์การเงินกัน โดยเฉพาะสำหรับน้องๆ ที่กำลังเลือกคณะเพื่อเข้ามหาวิทยาลัย หรือคนที่อยากปรับเปลี่ยนสายงานมาทำงานด้านการเงิน
นักวิเคราะห์การเงินคืออะไร? ทำงานอะไรบ้าง?
นักวิเคราะห์การเงิน (Financial Analyst) คือผู้เชี่ยวชาญที่ทำหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินต่างๆ เพื่อให้คำแนะนำและช่วยในการตัดสินใจด้านการลงทุน การบริหารการเงิน หรือการวางแผนทางการเงินขององค์กร โดยมีหน้าที่หลักๆ ดังนี้
- วิเคราะห์งบการเงินและผลประกอบการของบริษัท
- ศึกษาแนวโน้มตลาดและอุตสาหกรรม
- จัดทำรายงานและนำเสนอข้อมูลทางการเงิน
- ให้คำแนะนำด้านการลงทุนและการบริหารการเงิน
- วิเคราะห์ความเสี่ยงและโอกาสทางธุรกิจ
คณะที่เหมาะสมสำหรับการเป็นนักวิเคราะห์การเงิน
1. คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี
สาขาวิชาที่แนะนำ:
- การเงินและการธนาคาร
- การเงินและการลงทุน
- บริหารธุรกิจ (เอกการเงิน)
2. คณะเศรษฐศาสตร์
เน้นศึกษาด้าน:
- เศรษฐศาสตร์การเงิน
- เศรษฐศาสตร์การธนาคาร
- เศรษฐมิติ
3. คณะวิทยาศาสตร์
สาขาที่เกี่ยวข้อง:
- คณิตศาสตร์การเงิน
- สถิติ
- วิทยาการประกันภัย
ทักษะสำคัญสำหรับนักวิเคราะห์การเงิน
Hard Skills
- ความรู้ด้านการเงินและการลงทุน
- ทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข
- ความเชี่ยวชาญด้าน Excel และโปรแกรมวิเคราะห์ข้อมูล
- ความรู้ด้านบัญชีและการอ่านงบการเงิน
- ความเข้าใจในตลาดการเงินและเศรษฐกิจ
Soft Skills
- ทักษะการนำเสนอ
- การคิดวิเคราะห์เชิงตรรกะ
- การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ
- ความละเอียดรอบคอบ
- ความสามารถในการทำงานภายใต้ความกดดัน
มหาวิทยาลัยชั้นนำที่เปิดสอน
มหาวิทยาลัยรัฐบาล
- จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย – คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี
- มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ – คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี
- มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ – คณะบริหารธุรกิจ
- มหาวิทยาลัยมหิดล – วิทยาลัยการจัดการ
มหาวิทยาลัยเอกชน
- มหาวิทยาลัยกรุงเทพ – คณะบริหารธุรกิจ
- มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย – คณะบริหารธุรกิจ
- มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ – คณะบริหารธุรกิจและเศรษฐศาสตร์
ใบรับรองและคุณวุฒิที่เป็นประโยชน์
ใบรับรองระดับสากล
- CFA (Chartered Financial Analyst)
- FRM (Financial Risk Manager)
- CISI (Chartered Institute for Securities & Investment)
ใบอนุญาตในประเทศไทย
- ใบอนุญาตผู้แนะนำการลงทุนด้านหลักทรัพย์ (IC License)
- ใบอนุญาตนักวิเคราะห์การลงทุน (IA License)
- ใบอนุญาตผู้วางแผนการลงทุน (IP License)
แนวทางการพัฒนาตนเองระหว่างเรียน
กิจกรรมเสริมทักษะ
- เข้าร่วมชมรมการลงทุนหรือชมรมเศรษฐศาสตร์
- เข้าร่วมการแข่งขันวิเคราะห์หลักทรัพย์
- ฝึกงานกับบริษัทหลักทรัพย์หรือสถาบันการเงิน
- เข้าร่วมสัมมนาด้านการเงินและการลงทุน
โอกาสความก้าวหน้าในอาชีพ
เส้นทางความก้าวหน้าของนักวิเคราะห์การเงินมีหลากหลาย ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ:
- Junior Financial Analyst (0-3 ปี)
- Senior Financial Analyst (3-5 ปี)
- Financial Manager (5-8 ปี)
- Investment Director (8-12 ปี)
- Chief Financial Officer (CFO) (12+ ปี)
คำถามที่พบบ่อย
Q: จำเป็นต้องเรียนจบปริญญาตรีด้านการเงินโดยตรงหรือไม่?
A: ไม่จำเป็น แต่ควรมีพื้นฐานความรู้ด้านการเงิน บัญชี หรือเศรษฐศาสตร์ หากจบสาขาอื่น อาจต้องเพิ่มเติมความรู้ผ่านการอบรมหรือการศึกษาต่อ
Q: เงินเดือนเริ่มต้นของนักวิเคราะห์การเงินเท่าไร?
A: เงินเดือนเริ่มต้นประมาณ 25,000-35,000 บาท ขึ้นอยู่กับบริษัทและคุณวุฒิ โดยสามารถเพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็วตามประสบการณ์และผลงาน
Q: ควรเริ่มเตรียมตัวอย่างไรตั้งแต่มัธยมปลาย?
A: ควรเน้นวิชาคณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และเศรษฐศาสตร์เบื้องต้น รวมถึงติดตามข่าวสารด้านการเงินและเศรษฐกิจอย่างสม่ำเสมอ
สรุป
การเป็นนักวิเคราะห์การเงินเป็นอาชีพที่มีความท้าทายและโอกาสก้าวหน้าสูง แม้จะต้องใช้ความพยายามและการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง แต่ผลตอบแทนและความก้าวหน้าในอาชีพก็คุ้มค่ากับความทุ่มเท สิ่งสำคัญคือการเลือกเส้นทางการศึกษาที่เหมาะสมกับเป้าหมาย และพัฒนาทักษะที่จำเป็นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเลือกเรียนคณะใด สิ่งสำคัญคือความมุ่งมั่นและความพร้อมที่จะเรียนรู้ตลอดชีวิต